Wednesday, 29 October 2025

รถเก่าอายุเกิน 20 ปี ยังทำประกันได้ไหม? เลือกแบบไหนดีให้คุ้มค่า

Can cars over 20 years old still get insured

Can cars over 20 years old still get insured


รถเก่าอายุเกิน 20 ปี ยังทำประกันได้ไหม? — เลือกแบบไหนถึงคุ้มค่า

หลายคนมักสงสัยว่าเมื่อรถมีอายุเกิน 20 ปี จะยังสามารถทำประกันรถยนต์ได้หรือไม่ และถ้าทำแล้วคุ้มค่าหรือไม่ บทความนี้จะอธิบายให้ชัดเจน ทั้งเหตุผล ทำไมรถเก่ายังควรทำประกัน และประกันแบบไหนเหมาะสมที่สุดสำหรับรถอายุเยอะ

ทำไมรถเก่ายังควรทำประกัน?

อุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้นได้เสมอ — ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่หรือรถเก่า การมีประกันช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดเหตุ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ หรือการชดเชยทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง

รถเกิน 20 ปี ทำประกันแบบไหนได้บ้าง?

เงื่อนไขการรับประกันขึ้นกับแต่ละบริษัทประกัน บางบริษัทอาจจำกัดอายุรถสำหรับประกันชั้นต่างๆ แต่โดยทั่วไป:

  • ประกันชั้น 3 — ส่วนใหญ่รับได้สำหรับรถอายุมากกว่า 20 ปี เป็นตัวเลือกที่ประหยัดและคุ้มค่าสำหรับรถเก่า
  • ประกันชั้น 3+ — ให้ความคุ้มครองมากขึ้นกว่าชั้น 3 ในราคาที่ยังไม่สูง เหมาะกับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองเพิ่มเล็กน้อย
  • ประกันชั้น 1 / 2+ — บริษัทบางแห่งอาจจำกัดไม่รับประกันรถที่อายุมากมาก ควรเช็กเงื่อนไขจากแต่ละบริษัท

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ

  • เช็กเงื่อนไขอายุรถกับบริษัทประกัน: แต่ละบริษัทมีนโยบายไม่เหมือนกัน
  • พิจารณางบประมาณและความต้องการคุ้มครอง: ถ้าต้องการราคาถูกและคุ้มครองพื้นฐาน ชั้น 3 มักเพียงพอ
  • เปรียบเทียบเบี้ยและข้อยกเว้น: ดูรายละเอียดการคุ้มครอง เช่น การประกันตัวรถหาย ไฟไหม้ หรือความเสียหายต่อบุคคลภายนอก
  • ตรวจสภาพรถก่อนทำ: รถที่ซ่อมแซมไม่เรียบร้อยหรือมีปัญหาอาจถูกปฏิเสธหรือเบี้ยสูงขึ้น

กรณีศึกษา—ถ้ารถอายุ 25 ปี ควรทำอย่างไร?

สำหรับรถอายุราว 25 ปี แนะนำให้พิจารณาประกันชั้น 3 หรือ 3+ ที่ให้ความคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินบุคคลภายนอกเป็นหลัก หากต้องการคุ้มครองตัวรถเอง อาจต้องยอมรับเบี้ยที่สูงขึ้นหรือหาบริษัทเฉพาะที่รับประกันรถเก่า

Can cars over 20 years old still get insured

Can cars over 20 years old still get insured

สรุป

รถอายุเกิน 20 ปี ยังสามารถทำประกันได้ โดยเฉพาะประกันชั้น 3 และชั้น 3+ ที่มักเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับรถเก่า การทำประกันช่วยปกป้องความเสี่ยงทางการเงินและทำให้ขับขี่ได้อย่างสบายใจขึ้น

แนะนำขั้นตอนถัดไป

  1. รวบรวมข้อมูลรถ (ยี่ห้อ รุ่น ปีจดทะเบียน ระบุสภาพโดยรวม)
  2. เปรียบเทียบใบเสนอราคาจากบริษัทประกันหลายเจ้า
  3. อ่านข้อยกเว้นในกรมธรรม์ให้ละเอียดก่อนเซ็น
  4. ถ้ามีข้อสงสัย ให้ปรึกษาตัวแทนหรือนายหน้าประกันเพื่อตรวจเงื่อนไขเฉพาะกรณี

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save