
น้ำมันสน-กับ-ทินเนอร์-ต่างกันอย่างไร-ใช้แบบไหนดี
สวัสดีครับท่านผู้อ่าน เชื่อว่าหลายท่านที่เข้ามาดูเนื้อหาบทความนี้ก็คงมีความสงสัยกันไม่น้อยเกี่ยวกับ ทินเนอร์ กับ น้ำมันสน ซึ่งก็ไม่แปลกถ้าเราจะไม่รู้ว่าจะใช้ทินเนอร์ หรือ น้ำมันสนในการใช้งานเกี่ยวกับงานสี ทาสีบ้าน ทาสีรั้วบ้าน การผสมกับสีเพื่อเจอจาง และการล้างแปรงทาสี หลังจากใช้งานทาสีกันเรียบร้อยแล้ว ซึ่งโดยหลักๆก็จะใช้ 2 สิ่งนี้ คือ น้ำมันสนกับทินเนอร์ แล้วมันต่างกันอย่างไรหละ ? แล้วมันใช้แบบไหนบ้างวันนี้มีคำตอบมาให้ท่านผู้อ่าน คนรักบ้าน มาฝากกันครับ ^^
ทินเนอร์คืออะไร ?
สำหรับทินเนอร์นั้นเป็นตัวทำละลาย เจือจางสี สีของทินเนอร์จะใสเหมือนน้ำ เป็นของเหลว ไม่มีสีแต่ระเหยได้ง่าย ใช้เป็นส่วนผสมกับสีเวลาที่สีนั้นหนืด หรือข้นเกินไปทำให้ทาสีได้ยาก เขาจึงนำสิ่งนี้มาผสมกับสี หรือ เรียกว่าตัวทำละลาย เพราะทำให้เจือจางนั่นเอง

ทินเนอร์
ส่วนประกอบของทินเนอร์มีอะไรบ้าง ?
ทินเนอร์นั้นมีส่วนประกอบ ได้แก่ คีโตน (Ketone), แอลกอฮอล์ (Alcohol), อะโรมาติก (Aromatic), อีเตอร์ (Ether) เอสเตอร์ (Ester),และกลุ่มไฮโดรคาร์บอน (Hydrocarbon) , โทลูอีน (Toluene) เมื่อนำมาผมสมกันให้ได้สัดส่วนก็จะได้ทินเนอร์สำหรับใช้งาน
การนำทินเนอร์ไปใช้งาน
ในภาคครัวเรือน เราจะพบว่าช่างก่อสร้าง หรือ ช่างไม้ ช่างสี ช่างยนต์ จะใช้ในการทำงาน อาทิเช่น การทาสีบ้าน ,แลกเกอร์ , ใช้ในการทำงานสี ของอู่ซ่อมรถ , ใช้ในงานตกแต่งภายในบ้าน งานไม้เฟอร์นิเจอร์
ในภาคอุตสหกรรม จะพบว่านำทินเนอร์ไปใช้งานในงาน ผลิตพลาสติก งานโรงพิมพ์ เจอจางสีหรือหมึกพิมพ์ รวมไปถึงกการผลิตสายไฟ อีกด้วย

การทาสีบ้าน
น้ำมันสนคืออะไร ?
นำมันสน เกิดจากการต้นสน เป็นของเหลวที่ได้มาจากการกลั่นด้วยยางไม้ที่เก็บเกี่ยวจากต้นไม้ที่มีชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่ถูกใช้เป็นตัวทำละลายแบบพิเศษ และยังเป็นแหล่งวัสดุสำหรับสารสังเคราะห์อินทรีย์ มักจะนำไปใช้ในการผสมสีน้ำมัน เรียกว่าเป็นสิ่งจำเป็นของช่างทาสี และช่างเขียนภาพอีกด้วย
เดิมแหล่งผลิต และวัตถุดิบส่วนใหญ่อยู่ทางภาคเหนือ อาทิ เชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน และในอีสานก็มีบ้าง อาทิ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และสุรินทร์ เป็นต้น (ผลผลิตที่ได้จากการกลั่นยางสน ได้แก่ ชันสนและน้ำมันสน โดยมีการเจาะยางสนจากสนสองใบ Pinus merkusii.Jungh) และด้วยเดิมทางเชียงใหม่มีอุตสาหกรรมเฟอร์ฯไม้ และสิ่งก่อสร้างด้านไม้มาก จึงเป็นที่นิยมเรียกกันไปเป็น “น้ำมันสนเชียงใหม่” แทบทุกยี่ห้อ (ปัจจุบันแทบทุกยี่ห้อเป็นสารสังเคราะห์กลุ่มไฮโดรคาร์บอนแทนวัตถุดิบจากธรรมชาติกันหมดแล้ว)
ส่วนประกอบของน้ำมันสนมีอะไรบ้าง ?
น้ำมันสนประกอบไปด้วยเทอร์พีน ส่วนใหญ่เป็นโมโนเทอร์พีน แอลฟาและเบต้า-ไพนีน โดยมีส่วนประกอบด้วย carene, camphene, dipentene, และ terpinolene ในจำนวนที่น้อยกว่า
การนำน้ำมันสนไปใช้
น้ำมันสนถูกใช้ในงานไม้เป็นหลัก ใช้น้ำมันสนผสมกับสีเพื่อเป็นตัวทำละลาย ใช้สำหรับสีที่ต้องการความหนาเพราะแห้งช้ากว่าทินเนอร์ ไม่แสบร้อน กลิ่นไม่ฉุนแสบจมูกเท่ากับทินเนอร์ ใช้ล้างแปรงทาสี หรือ เช็ดสีที่หยดเปอระเปื้อนที่เกินชิ้นงานได้

น้ำมันสน-เอาไว้ผสมสีน้ำมันทาสีบ้าน
น้ำมันสน กับ ทินเนอร์ ต่างกันอย่างไร ?
| # | ทินเนอร์ | น้ำมันสน |
|---|---|---|
| 1 | ใช้ผสมสีน้ำมัน สีทากันสนิม สีทาเหล็ก ซิลเลอร์ แล็คเกอร์ ยูรีเทน แทบจะทุกชนิด | ใช้ผสมสีน้ำมัน สีทากันสนิม สีทาเหล็ก |
| 2 | สีจะแห้งเร็ว แต่การใช้งานขึ้นอยู่กับเกรดของทินเนอร์ | ใช้สำหรับสีที่แห้งช้าและต้องการความหนาของสี |
| 3 | เวลาสัมผัสผิวจะแสบร้อน อาจจะทำให้เมา หรือเวียนหัวได้ | สีจะแห้งช้า เวลาล้างไม่แสบร้อนมาก กลิ่นไม่แสบจมูก |
| 4 | กลิ่นจะฉุนกว่าสูดดมนานๆ อาจจะเมา วิงเวียนได้ | ไม่เมาหรือเวียนหัว ใช้ล้างแปรงสีน้ำมัน |
| 5 | ส่วนใหญ่จะใช้กับสีที่เป็นสีทึบ | |
| 6 | ไม่สามารถใช้กับแล็คเกอร์หรือยูรีเทนได้ เพราะส่วนผสมไม่เข้ากัน เปรียบเทียบเหมือนเอาน้ำมันไปผสมกับน้ำ | |
| 7 | งานสี ถ้าเอาทินเนอร์ลงก่อน ต้องรอจนทินเนอร์แห้ง สามารถทาสีน้ำมันที่ผสมน้ำมันสนทับได้ | |
| 7 | งานสี ถ้าเอาสีน้ำมันไม่ว่าจะผสมน้ำมันสนหรือทินเนอร์ลงก่อน แล้วทับด้วยสีที่ผสมทินเนอร์ ตัวทินเนอร์อาจจะกัดสีที่ลงก่อน ทำให้ลอก ล่อน หรือเหลืองได้ |
เทคนิคในการทาสี
-
- ทาสีจากบนลงล่าง วิธีนี้จะช่วยป้องกันความผิดพลาดที่เกิดจากสีหยดเลอะผิวงาน เพราะหากมีสีหยดจากด้านบนลงด้านล่างก่อน ยังสามารถแก้งานด้านล่างได้สะดวก
- ทาสีตามซอกเล็ก ๆ ก่อนชิ้นงานใหญ่ ๆ เนื่องด้วยตามซอกจุดเล็ก ๆ ทาได้ยากกว่าจุดใหญ่ ๆ จึงมีโอกาสที่จะเลอะล้นขอบได้ง่าย กรณีจุดเล็ก ๆ เลอะไปยังจุดใหญ่ ยังสามารถทาทับจุดที่เลอะล้นออกมาได้
- ทาสีแนวเดียวกัน เช่น หากเหล็กวางอยู่ตามแนวนอน ให้ทาสีตามแนวนอนไปทั้งเส้น หรือเหล็กแนวตั้งให้ทาสีแนวตั้งทั้งเส้น ไม่ควรทาสลับทิศทางไปมา
- แยกแปรงตามสี กรณีรั้วบ้านสีเดียวกันทั้งหมดจะไม่เป็นปัญหา แต่หากมีสีสันที่ต่างกัน ควรแยกแปรงสีใดสีหนึ่ง เพราะหากใช้แปรงเดิม แม้จะใช้ทินเนอร์ล้างออกได้ แต่มักมีสีเดิมเลอะละลายออกมา ทำให้สีผิดเพี้ยนได้ ทั้งยังเป็นการเสียเวลางาน
- เลือกขนาดแปรงให้เหมาะกับชิ้นงาน เช่น ตามซอกเล็ก ๆ ควรใช้แปรงขนาดเล็ก จะช่วยลดปัญหาสีเลอะล้นขอบ ส่วนผิวงานใหญ่ ควรใช้แปรงขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อให้งานเสร็จไวและเส้นสีดูต่อเนื่องเนียนตา

รีโนเวททาสีบ้านเก่า